City of Ember (2008) กู้วิกฤติมหานครใต้พิภพ

รีวิว + สปอยล์เต็ม: The City of Ember (2008) — กู้วิกฤติมหานครใต้พิภพ

IMDb:
The City of Ember (2008) – IMDb
คะแนนเฉลี่ย: ~6.4 / 10 

เรื่องย่อ

เมืองใต้ดิน “เอมเบอร์” ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของมนุษย์หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติ เมื่อเวลาผ่านไป 200 ปี เครื่องกำเนิดแสงเริ่มล้มเหลว และอาหาร ยา และทรัพยากรเริ่มขาดแคลน
ลินา เมย์ฟลีต และ ดูน แฮร์โรว์ สองวัยรุ่นผู้ไม่ยอมยืนอยู่เฉย พวกเขาได้ค้นพบ “กล่องคำสั่ง” ที่ซ่อนไว้โดยผู้สร้างเมือง และเริ่มออกเดินทางผ่านท่อใต้ดิน เพื่อหาหนทางสู่ “พื้นผิว” ที่แท้จริง ก่อนที่เมืองจะสูญสลาย.

บทความรีวิว

The City of Ember เป็นหนังที่ผสมผสานความแฟนตาซี-ไซไฟกับธีม “การเอาตัวรอด” และ “การค้นพบตัวตน” โดยใช้ฉากเมืองใต้ดินที่ออกแบบอย่างหรูหราเป็นพื้นหลัง
งานกำกับของ Gil Kenan และการแสดงของ Saoirse Ronan สร้างภาพที่น่าสนใจ ถึงแม้บทภาพยนตร์อาจไม่ลึกซึ้งที่สุด แต่บรรยากาศและแนวคิดทำให้หนังมีสีสัน

จุดเด่นคือการใช้โลเคชันและดีไซน์ฉากในการสร้างโลกใต้ดินที่น่าหลงใหล มีรายละเอียดเครื่องจักร แสงไฟ และท่อใต้พื้นดินที่แสดงถึงการเสื่อมโทรมของเมือง
ขณะที่จุดด้อยคือการดำเนินเรื่องบางช่วงอาจรู้สึกรีบ และการแก้ปัญหาบางอย่างรู้สึกง่ายเกินไปสำหรับผู้ชมที่คาดหวังความซับซ้อนมากขึ้น. :contentReference[oaicite:6]{index=6}

สปอยล์เต็ม

  1. เปิดตัว: เมืองเอมเบอร์ดำเนินการตามคำสั่งที่ว่าเมืองนี้จะอยู่ 200 ปีหลังจากนั้นต้องมีผู้หลุดออกไป แต่กล่องคำสั่งนั้นถูกเก็บลืมไว้.
  2. ค้นพบกล่อง: ลินาเจอเขตเก็บกล่องในบ้าน และกับดูน แฮร์โรว์เริ่มสืบจนรู้ว่าเครื่องกำเนิดเมืองกำลังจะล่ม.
  3. เปิดเผยความจริง: เมืองมีนายกเทศมนตรีที่เก็บอาหารไว้ในบังเกอร์ และไม่บอกผู้คนว่าเมืองใกล้พังจริง ๆ.
  4. หลบหนี: ลินา ดูน และน้องสาวพ็อปปี้ใช้เรือจากท่อใต้ดินหลบหนีขึ้นสู่พื้นผิวได้สำเร็จ พร้อมส่งข้อความให้เมืองรู้.
  5. ปิดฉาก: พวกเขายืนอยู่บนพื้นผิวและเห็นแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก เมืองเอมเบอร์ยังอยู่ข้างบนแต่ไม่สามารถติดต่อได้ทันที.

บทวิจารณ์

จุดเด่น

  • โลกใต้ดินมีเอกลักษณ์: ดีไซน์เมืองเอมเบอร์และเครื่องจักรในนั้นทำให้รู้สึกว่าอยู่ในโลกที่ถูกทิ้งและต้องค้นหาทางออก.
  • ตัวละครวัยรุ่นที่กล้าหาญ: ลินาและดูนคือสองตัวละครที่ผู้ชมให้ใจตาม เป็นตัวแทนของความกล้าและความหวัง.
  • ธีมที่ให้ข้อคิด: หนังพูดถึงการรักษา­ทรัพยากร, ความรับผิดชอบต่อเมือง และการค้นหาความจริงในโลกที่พัง.

จุดที่อาจขัดใจ

  • จังหวะเรื่องบางช่วง: ผู้วิจารณ์บางคนบอกว่าหนังเดินเร็วเกินไปและไม่ได้อธิบายโลกนี้ลึกพอ.
  • ปัญหางบประมาณ/ผลตอบรับ: หนังทำเงินต่ำเมื่อเทียบกับงบประมาณ ~US$55 ล้าน แต่ทำได้ ~US$17.9 ล้าน.

สรุป: The City of Ember คือหนังแฟนตาซี-ผจญภัยที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวและวัยรุ่น ถ้าคุณมองหาหนังที่มีโลกสร้างสรรค์และภารกิจใหญ่ หนังเรื่องนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ธรรมดา
แม้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีคุณค่าในการดู.

Author: laleega

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *